เป็นเก๊าท์ ปวดบวม ตามข้อ นิ้วมือ นิ้วเท้า ข้อเข่า ปวดทรมาน
นอนแทบไม่ได้ ทำงานก็ไม่สะดวก ถ้าเป็นที่เข่าที่ขาที่เท้า...ไปไหนก็ลำบาก
ดูแลรักษา ด้วย ดีเก๊าท์ อย่างคนที่ทานผลลัพท์ ดี ใช้ชีวิตได้ปกติ
โทร. 092 464 9192
สาเหตุโรคเก๊าท์ คือ กรดยูริคสูง
อาการของโรคเก๊าท์
สำหรับโรคเก๊าท์ปฐมภูมิ แบ่งออกเป็น 4 ระยะคือ
1.ระยะที่ไม่มีอาการ ตรวจพบกรดยูริคในเลือดสูงเท่านั้น ซึ่งในเพศชายจะเริ่มมีกรดยูริคสูง
ตั้งแต่อายุ 14-15 ปี หรือเริ่มเป็นหนุ่ม ในเพศหญิงจะเริ่มสูงหลังจากหมดประจำเดือนแล้ว
2.ระยะข้ออักเสบเฉียบพลัน โดยมักเริ่มปวดบวมที่ข้อเท้าหรือหัวแม่เท้า
อาการปวดข้อรุนแรงมากจนเดินไม่ได้หรือเดินลำบาก หากรับการรักษาอาการจะหายสนิทได้ภายใน 1-3 วัน
หากปล่อยไว้ก็อาจหายเองได้ภายใน 4-6 วัน โดยข้ออักเสบจะหายเป็นปกติ
3.ระยะเป็นๆ หายๆ อาการข้ออักเสบจะกำเริบเป็นซ้ำที่เดิมเป็นๆหายๆ เริ่มแรกอาจกำเริบปีละ 1-2 ครั้ง
ต่อมาถี่ขึ้นเป็นปีละ 4-5 ครั้ง ข้ออักเสบจะเพิ่มจำนวนขึ้นจาก 1-2 ข้อ, 3-4 ข้อ
จนเป็นหลายๆข้อ เช่น ที่ข้อเท้า 2 ข้าง, เข่า ช่วงเวลาที่ข้ออักเสบจะยาวขึ้น
เช่น เป็นครั้งละ 5-7 วัน, 7-10 วัน เป็นต้น
4.ระยะข้ออักเสบเรื้อรัง มักมีข้ออักเสบหลายข้อ และเป็นตลอดเวลา
ไม่มีช่วงเว้นว่างหายสนิทอีกระยะนี้มักจะมีปุ่มก้อนขึ้นตามข้อต่างๆที่มีอาการอักเสบ
เช่น ที่ตาตุ่มของเท้า หัวแม่เท้า ข้อศอก เข่า ข้อมือ เป็นต้น ปุ่มเหล่านี้ คือ
ก้อนผลึกยูเรทที่สะสมมากขึ้นๆ บางครั้งจะแตกออกเป็นสารขาวๆ คล้ายยาสีฟันไหลออกมา
หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ผู้ป่วยจะมีข้อพิการผิดรูปปวดทุกข์ทรมานมาก และอาจมีโรคไตวายแทรกซ้อนได้
อาการจากระยะที่ 1 จนถึงระยะที่ 4 อาจใช้เวลาหลายสิบปี
แต่ในรายที่รุนแรงอาจใช้เวลาเพียง 5-10 ปี
เท่านั้น และหากได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้องจนเกิดภาวะไตวายแทรกซ้อน
ยิ่งจะทำให้เกิดโรคเก๊าท์เป็นรุนแรงมากขึ้นอีกด้วย
ทานอย่างไรเมื่อเป็น...เก๊าท์
กว่าจะมาถึงขั้นเจ็บปวดจนเดินไม่ได้ ร่างกายของเรามีการสะสมอาการมาอย่างยาวนาน
ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักขึ้นอยู่กับ "อาหารที่เรารับประทาน" ค่ะ ซึ่งในวันนี้
หากใครที่เป็นเก๊าท์แล้ว เรามาถึงจุดที่ต้อง "ควบคุม" อาหารของเราอย่างจริงจังแล้วค่ะ ลองอ่านกันนะคะ
.
.1. เข้าใจโรคเก๊าท์ ก่อนค่ะว่า มีขั้นตอนการเกิดอย่างไร
อาการปวดแสบปวดร้อนต่างๆ เกิดจากการสะสมของ "กรดยูริค"
ที่ตกผลึกกันไปเกาะตามข้อต่างๆ ค่ะ โดยเจ็บปวดที่ข้อเดิมก่อน แล้วจะเป็นที่ข้ออื่นๆ
ตามมา จนกระทั่งเป็นเกือบทุกข้อทั่วร่างกาย อาการปวดก็จะถี่ขึ้นและนานขึ้น จนเกิดอาการปวดตลอดเวลา
ดังนั้น การบรรเทาอาหารเก๊าท์ จึงต้องเริ่มที่การลด "กรดยูริค" ที่จะเข้าสู่ร่างกายให้ได้ค่ะ
2. ซึ่งกรดยูริคนี้ จะมีอยู่ในอาหารที่มีพิวรีนสูง (พิวรีน เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะเปลี่ยนเป็นกรดยูริคได้ค่ะ)
ดังนั้น กลุ่มอาหารที่มีพิวรีนสูงๆ เราควรงดอย่างจริงจังค่ะ
เช่น เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ปีก ปลาซาร์ดีน ไข่ปลา น้ำต้มกระดูก น้ำสกัดเนื้อ ผักยอดอ่อน
3. พยายามบริโคภน้ำให้มากๆ วันละ 2-3 ลิตร เพื่อไม่ให้การสะสมกันของผลึกกรดยูริค
4. รับประทานผักผลไม้ให้มาก เพื่อให้ร่างกายได้รับไฟเบอร์ เพิ่มความเป็นด่างในร่างกาย
จะสร้างสมดุลกับกรดยูริคในร่างกายได้ดี แต่งดยอดผักตามที่กล่าวไว้นะคะ
5. งดเหล้า เบียร์ แอลกอฮอล์ไปเลยค่ะ เพราะทำให้เลือดเราเป็นกรด ผลึกยูริคจะยิ่งสะสมกันง่ายขึ้น
6. น้ำผลไม้ น้ำอัดลม พวกนี้ก็ทำให้ร่างกายสังเคราะห์กรดยูริคได้ง่ายขึ้น เบาๆ ลงจะดีค่ะ
.
ในช่วงที่เราเป็นโรคเก๊าท์ การคุมอาหารเป็นเรื่องที่เราจะต้องใส่ใจมากๆ ค่ะ
ส่วนผลึกยูริคที่เกิดขึ้นแล้ว ทำให้เรามีความเจ็บปวด
เราก็ต้องพยายามเอาออกให้ได้ค่ะ จะเป็นการลดปัญหาที่ต้นเหตุ
โรคเก๊าท์ มีผลกับร่างกายของเราค่อนข้างรุนแรงนะคะ เพราะหากเราเป็นโรคนี้
ไตจะต้องทำงานค่อนข้างหนักมาก ซึ่งจะส่งผลไปถึงการเป็นโรคไตวายได้ในภายหลัง
อันนี้จะเริ่มน่ากลัว เพราะถึงชีวิตแล้วค่ะ
.
อย่าประมาท อย่าชะล่าใจว่า คงแค่เดินยาก ไม่คล่องตัวนะคะ
ถ้าเป็นเก๊าท์ เราเป็นไตวายได้ค่ะ ใส่ใจดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ
ดูแลปัญหากลุ่มกระดูกและเก๊าท์ ด้วยสารอาหารบำบัดจากธรรมชาติ
แก้ไขตั้งแต่ต้นเหตุเพื่อให้คุณคล่องตัวอีกครั้ง
กินอย่างไร เมื่อเป็นโรคเกาต์ ?
โรคเกาต์ เกิดจากร่างกายมีกรดยูริกในเลือดสูงและตกตะกอนอยู่ตามข้อทำให้ข้ออักเสบ
ถ้าตกตะกอนในไตทำให้เป็นนิ่วหรือไตวายได้ ผู้ชายมีโอกาสเป็นเกาต์มากกว่าผู้หญิง
อาการโรคเกาต์ได้แก่ อักเสบบวมแดงที่หลังข้อเท้า ข้อนิ้วเท้า ข้อเข่าหรือข้ออื่นๆ มีไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว
อาการเป็นๆ หายๆ ถ้าไม่รักษาอาการอักเสบจะเป็นถี่ขึ้น นานขึ้น
เป็นหลายข้อพร้อมกันและอักเสบเรื้อรังจนทำให้ข้อผิดรูปอย่างถาวรได้
ค่าปกติของกรดยูริกในเลือดผู้ชายน้อยกว่า 7 มิลลิกรัม% ในผู้หญิงน้อยกว่า 6 มิลลิกรัม%
อย่างไรก็ตามแม้ว่ากรดยูริกในเลือดไม่สูงแต่หากมีอาการของโรคเกาต์ก็ต้องได้รับการรักษาแบบโรคเกาต์
กินไก่หรือสัตว์ปีกบ่อยๆ จะทำให้เป็นโรคเกาต์ ?
จริงๆ แล้วการกินไก่หรือสัตว์ปีกเป็นประจำไม่ได้ทำให้คนปกติกลายเป็นโรคเกาต์ได้
แต่จะมีผลกับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเกาต์อยู่แล้วแต่อาการยังไม่แสดง หรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงโรคเกาต์ถ้าทานเยอะจนเกินไป
นอกจากนี้ยังมีอาหารชนิดอื่นที่ทำให้โรคเกาต์กำเริบได้
ซึ่งถ้าผู้ป่วยรู้จักหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิดก็จะมีส่วนช่วยในการควบคุมอาการของโรคได้
ควรงดอาหารหรือกินอะไรได้บ้างในผู้ป่วยโรคเกาต์ ?
เนื่องจากกรดยูริกเกิดจากการเผาผลาญสารพิวรีนในอาหาร
ดังนั้นอาหารที่มีสารพิวรีนสูงจึงทำให้คนที่เป็นโรคเกาต์มีอาการกำเริบได้
ตัวอย่างกลุ่มอาหารแบ่งตามปริมาณสารพิวรีน
อาหารที่มีพิวรีนสูง ควรงดหรือทานให้น้อยที่สุด ได้แก่ เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ปีก ปลาดุก ปลาซาดีน
ปลาไส้ตัน ปลาอินทรีย์ น้ำต้มกระดูก ซุปก้อน ไข่ปลา เห็ด ถั่วดำ ถั่วแดง กระถิน ชะอม สะเดา ยอดมะพร้าวอ่อน
อาหารที่มีพิวรีนปานกลาง เลือกทานได้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
ได้แก่ ปลากระพงแดง ปลาหมึก ปู เนื้อหมู เนื้อวัว ถั่วลิสง ถั่วลันเตา ใบขี้เหล็ก ดอกกะหล่ำ ผักโขม สะตอ หน่อไม้ ข้าวโอ๊ต
อาหารที่มีพิวรีนน้อยหรือไม่มีเลย สามารถทานได้ทุกวัน
ได้แก่ ผักและผลไม้ทั่วไป ปลาน้ำจืด นมและผลิตภัณฑ์จากนม เนย ไข่ ข้าว ขนมปัง ธัญพืช เจลลาติน น้ำตาล
นอกจากนี้ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะเป็นตัวการที่ทำให้เกิดการสร้างยูริกในเลือดสูงมาก
และดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยในการขับกรดยูริค
คลายข้อสงสัย กับคำถามที่ผู้ทานอยากรู้
D-KOUTต่างกับยาแผนปัจจุบันอย่างไร
ยาแผนปัจจุบันจะขับกรดยูริคในเลือดออกจากร่างกาย
และอาจส่งผลข้างเคียงจากยาอื่นๆตามมาได้
แต่สมุนไพร dkout นอกจากจะช่วยขับกรดยูริคในเลือดออกจากร่างกาย
ยังมีส่วนช่วยบำรุงไตให้แข็งแรงและสามารถทำงานได้อย่างปกติมากขึ้นอีกด้วย
มั่นใจได้ในประสิทธิภาพ ดูได้จาก dkout รีวิวจากลูกค้ามากมาย
วิธีการรับประทาน D-KOUT
รับประทานผลิตภัณฑ์ดีเก๊าท์ หลังอาหารเช้า 1 เม็ด และก่อนนอน 1 เม็ด
ใน 1 กล่อง มีผลิตภัณฑ์ดีเก๊าท์ 30 เม็ด
ต้องทาน D-KOUT นานแค่ไหน
ทานทุกวันต่อเนื่องอย่างน้อย 1 เดือน
แต่ในรายที่มีอาการของโรคเก๊าท์หนักมาก จะต้องทานต่อเนื่อง 3 เดือน
เมื่ออาการดีขึ้นแล้ว สามารถลดปริมาณการทานลงหรือหยุดทานอาหารเสริมดีเก๊าท์ได้
เพราะอาหารเสริมสมุนไพรดีเก๊าท์ เข้าไปช่วยฟื้นฟูไตให้ทำหน้าที่ตามปกติ
พยายามหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่เป็นต้นเหตุให้อาการโรคเก๊าท์กำเริบขึ้นมา
D-KOUT ทานควบคู่กับยารักษาโรคเก๊าท์แผนปัจจุบันได้
ไม่ได้มีผลกระทบต่อตัวยาแผนปัจจุบัน
แต่เวลาทานยาดีเก๊าท์ ขอให้เว้นระยะห่างกันประมาณครึ่งชั่วโมง
อย่าลังเล...จะทนทรมานเพราะปวดจากเก๊าท์ ทำไม?
เราช่วยท่านได้แน่นอน